วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

การลับมีดลักษณะต่างๆ

ตอนที่ 1

“คมมีด”
คมมีดมีหลายลักษณะ แตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ และลักษณะการใช้งานอาทิ เช่น

Hollow Ground
คือการทำคมมีดแบบเว้าด้านข้างของใบมีด คมมีดแบบนี้ผมเพิ่งทราบจาก “น้าน้อย” แห่งหมู่บ้านอรัญญิกเมื่อไม่นานมานี้ท่านเรียกว่า “แอ้ว” คือช่างตีมีดจะตีส่วนของใบมีดให้เป็นแอ่งเว้าลงไป เมื่อคมมีดฟันผ่านเนื้องาน จะเกิดแรงเสียดทานที่น้อยกว่า และทุ่นแรงในการฟันไม้ทั้งน้ำหนักในการฟัน และ จำนวนครั้งที่ฟัน คมมีดแบบนี้สามารถจะอยู่ในมีดได้ทั้งขนาดเล็ก กลาง หรือแม้แต่มีดที่ใหญ่ แต่แน่นอน มีดขนาดใหญ่มักจะมีความหนาที่หนาตามขึ้นไปด้วย เท่าที่เห็นในท้องตลาด คมมีดแบบนี้มักจะอยู่ในมีดขนาดใบไม่เกิน 4 นิ้ว และมีดฝรั่งที่สร้างชื่อมาช้านาน คือ Bob Loveless

Flat Grind
การทำคมมีดชนิดนี้อาจจะทำได้ 2 ลักษณะ ได้แก่การการทำคมมีดที่มีพื้นที่หน้าตัดทางด้านความหนาของมีดเป็นทรงตัว V ในอักษรภาษาอังกฤษ และอีกลักษณะหนึ่ง ใบมีดแบบเสมอกัน หรือเกือบเสมอกัน แล้วไปทำมุมที่ส่วนคม คือคมมีดชนิดนี้ สามารถทำให้หนา และบางได้ต่างๆกันไป คมมีดแบบนี้เป็นที่นิยมในการผลิตมีดอย่างกว้างขวา ทั้งนี้น่าจะมาจากความง่าย ไม่ซับซ้อนทางการผลิต

Convex
คมมีดแบบนี้มีลักษณะโค้งมน ทั้ง 2 ด้านของคมมีด ลักษณะคมมีดจะหนา ผู้ผลิตราบใหญ่ที่นิยมทำคมมีดแบบนี้ให้เหตุผลว่า เป็นคมมีดที่มีความคงทนสูง และสามารถผลิตได้โดยการตั้งคมด้วยมือ หรือความชำนายของช่างเท่านั้น

Chiesel Grinding หรือคมแบบสิ่ว คมมีดแบบนี้ เช่นสิ่วนั่นเอง ถูกออกแบบให้สามารถกินลึกเข้าสู่เนื้อไม้ได้ดี หรือหากเอาไปใช้ในการทำอาหาร จะทำให้อาหารที่ถูกเฉือนล้มลงไปทางด้านที่คมมีดปาดเฉียง ผู้เขียนมีความเห็นว่า ผู้ที่ถนัดซ้าย ส่วนของคมมีดที่ถูกปาดออกต้องอยู่ด้านซ้าย และจะอยู่ด้านขวาเมื่อผู้ใช้มีดถนัดขวา คมมีดแบบนี้จึงน่าจะถูกจำกัดด้วยความถนัดของบุคคลที่ใช้มัน

นอกจากคมมีดหลายแบบข้างต้นแล้ว ผู้เขียนยังเคยเห็นคมมีดแบบผสมในมีดเล่มเดียวกันในมีดที่ออกแบบเป็นมีดแนว Tanto ของญี่ปุ่นที่ฝรั่งเอาไปผลิต (ผู้เขียนต้องขออภัยที่มิได้กล่าวถึงมีดของญี่ปุ่น เนื่องจากขีดจำกัด ไม่มีความรู้เพียงพอ) เช่นมีดของ Bob Lum เป็นแบบผสมระหว่าง Hollow Ground ที่ส่วนท้องของมีด และไปหนาที่ส่วนปลาย คมมีดแบบนี้ผู้เขียนเห็นว่าเป็นคมมีดในอุดมคติของมีดเชิงยุทธวิธีจนไปถึงมีดยังชีพ (จนเอาแนวคิดไปออกแบบ Dickier l) ด้วยเหตุผลที่ว่าคมมีดบางเกินไปแม้จะคมเฉียบ แต่ความทนทานจะเสียไป และคมมีดที่หนาเกินไปก้อาจจะไม่คมเฉียบเท่ากับมีดที่คมบางกว่า แนวคิดในการออกแบบมีดลักษณะนี้อาจจะไม่ใช่ของใหม่เพราะมีดอีเหน็บของไทยก็ไม่คมหนา ไปบางที่ส่วนปลายมีด และการใช้อีเหน็บก้จะเลือกใช้คมของมีดตามวัตถุประสงค์ เทคโนโลยีทางการผลิตมีดในปัจจุบันพัฒนาไปมาก แนวคิดของการผสมผสานคมมีดปัจจุบันจึงอาจจะเปลี่ยนแปลง หรือสามารถเอาส่วนที่คมหนาไปไว้ที่ปลายมีดแทน เพื่อประโยชน์ในการเจอะ แงะ หรืองัดแงะสิ่งต่างๆ


ไม่ว่าคมมีดจะเป็นแบบใดก็ตาม ผู้เขียนได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า องสาของคมมีดมีอยู่เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่พวกต่างๆดังนี้

1. 17 – 30 องสา สำหรับมีดทำครัวเฉพาะ หรือมีดใช้งานทั่วไป
2. 30 – 40 องสา สำหรับมีดใช้งานทั่วไป และมีดที่เน้นการต่อสู้เรื่อยไปจนถึงมีดขนาดใหญ่ใบยาวถึง 9 – 10 นิ้ว
3. 60 – 70 คงสา ซึ่งเป็นคมขวาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น